ซูซูกิ เปิดตัว NEW SUZUKI ERTIGA SMART HYBRID ครั้งแรกในรถ MPV

ซูซูกิ เปิดตัว NEW SUZUKI ERTIGA SMART HYBRID ครั้งแรกในรถ MPV

ซูซูกิ จัดเต็มทุกฟังก์ชั่นกับ The Power of Smart เต็มพลังสมาร์ทไฮบริดกับครั้งแรกด้วยเครื่องยนต์ SMART HYBRID ในรถ MPV

30 พฤศจิกายน 2565-กรุงเทพมหานคร-บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด สร้างปรากฏการณ์ให้กับตลาดรถยนต์อีกครั้ง ประกาศเปิดตัว NEW SUZUKI ERTIGA SMART HYBRID อย่างเป็นทางการในประเทศไทย ชูแนวคิด “The Power of Smart เต็มที่ทุกฟังก์ชัน เต็มพลังสมาร์ทไฮบริด” เติมเต็มความต้องการของลูกค้า ด้วยเทคโนโลยี Smart Hybrid Vehicle (SHVS) ระบบสมาร์ทไฮบริดแบบใหม่ล่าสุดของซูซูกิ พร้อมขนกองทัพรถยนต์ซูซูกิเข้าร่วมจัดแสดงภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39 อย่างคับคั่ง โดยยังมุ่งเน้นที่จะนำเสนอผลิตภัณฑ์คุณภาพดีเพื่อตอบรับไลฟ์สไตล์อันโดดเด่นของลูกค้า

นายมิโนรุ อามาโนะ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า สำหรับงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคม 2565 ณ อิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี นับเป็นงานแสดงรถยนต์ที่จัดขึ้นในช่วงท้ายปี ที่มีส่วนช่วยกระตุ้นยอดขายรถยนต์และร่วมผลักดันอุตสาหกรรมยานยนต์ในประเทศไทยมาโดยตลอด

งานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39 ถูกจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “ได้เวลา…สัมผัสอนาคต-It’s TIME…Come Touch the FUTURE” สื่อสารถึงความเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นในโลกยานยนต์ ด้วยการก้าวผ่านจากเครื่องยนต์สันดาปภายในไปสู่รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้า เป็นแนวคิดที่สอดคล้องกับทิศทางการดำเนินธุรกิจของซูซูกิในอนาคตอันใกล้ ซึ่งไม่ใช่แค่เพียงการนำเสนอสินค้าคุณภาพดี มีความคุ้มค่า แต่มาพร้อมเทคโนโลยีอัจฉริยะสมบูรณ์แบบ พาคุณไปพบกับอิสระแห่งการเดินทางได้มากกว่าที่เคย

สำหรับการเข้าร่วมงานในครั้งนี้ ซูซูกิมีความภาคภูมิใจในการแนะนำ “NEW SUZUKI ERTIGA SMART HYBRID-The Power of Smart เต็มที่ทุกฟังก์ชัน เต็มพลังสมาร์ทไฮบริด” ครั้งแรกในประเทศไทยกับเทคโนโลยี SMART HYBRID ที่ติดตั้งมาในรถยนต์อเนกประสงค์ขนาด 7 ที่นั่ง ซึ่งถูกออกแบบมาให้พร้อมตอบโจทย์ในการใช้งาน ยกระดับชีวิตสู่ความสมาร์ทในทุกเส้นทาง ด้วยเทคโนโลยี SHVS เทคโลยีระบบสมาร์ทไฮบริดแบบใหม่ของซูซูกิ ที่มีมอเตอร์ไฟฟ้า (Integrated Starter Generator หรือ ISG) พร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ION เพื่อช่วยเสริมกำลังการทำงานของเครื่องยนต์ มีผลทำให้ลดอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันที่ดีขึ้น และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ด้วยสมรรถนะและฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครัน มอบอิสระแห่งการเดินทางสุดสมาร์ทเพื่อให้ทุกการขับขี่เป็นไปได้อย่างสมบูรณ์แบบ

การนำเสนอผลิตภัณฑ์ล่าสุดอย่าง “NEW SUZUKI ERTIGA SMART HYBRID” เรามีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าจะสร้างปรากฎการณ์ให้กับตลาดรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ของไทยให้คึกคักมายิ่งขึ้นนับจากนี้ ทั้งยังจะมีส่วนช่วยในการส่งเสริมให้ตัวเลขยอดขายรถยนต์ของซูซูกิในปี 2565 มีอัตราการเติบโตสูงขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา

ถึงแม้สถานการณ์ตลาดอุตสาหกรรมยานยนต์โดยรวมจะมีแนวโน้มที่ยากลำบากแต่ยอดขายรถยนต์ในช่วง 10 เดือนที่ผ่านมาซูซูกิมีอัตราการเติบโตสูงขึ้น 2.49% ที่ตัวเลขยอดขายจำนวน 17,180 คัน ด้วยกลยุทธ์สำคัญคือ การนำเสนอสินค้าและบริการที่เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้า

ให้สามารถเข้าถึงและเป็นเจ้าของได้โดยง่าย ช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตให้ปลอดภัยได้อย่างมีความสุข โดยจากการเข้าร่วมงานมหกรรม

ยานยนต์ ครั้งที่ 39 ด้วยสถานการณ์หลายอย่างเริ่มมีทิศทางที่ดีขึ้น รวมถึงบรรยากาศที่มีส่วนช่วยกระตุ้นให้เกิดการตัดสินใจซื้อรถในช่วงนี้ ซูซูกิคาดการณ์ว่าจะสามารถสร้างยอดจองภายในงานได้ถึง 2,400 คัน

นายวัลลภ ตรีฤกษ์งาม รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซูซูกิ มอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า “NEW SUZUKI ERTIGA SMART HYBRID -The Power of Smart เต็มที่ทุกฟังก์ชัน เต็มพลังสมาร์ทไฮบริด” นับเป็นอีกปรากฎการณ์ของรถอเนกประสงค์ประเภท MPV ในประเทศไทย ที่มาพร้อมดีไซน์ที่จะพาคุณไปพบอิสระแห่งการเดินทางสุดสมาร์ท ด้วยเครื่องยนต์ SMART HYBRID ใหม่ เต็มที่ทุกฟังก์ชัน ตอบโจทย์ในทุกการใช้งาน ด้วยเทคโนโลยีอัจฉริยะ SHVS จากซูซูกิ ที่ผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้า Integrated Starter Generator หรือ ISG พร้อมแบตเตอรี่ Lithium-ION เพื่อเสริมการขับเคลื่อนให้เครื่องยนต์ไม่ต้องทำงานหนัก และชาร์จกระแสไฟ (Regenerative) เข้าไปเก็บในแบตเตอรี่ มีส่วนสำคัญในการลดการปล่อยมลพิษออกจากเครื่องยนต์ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม


“จุดเด่นของเทคโนโลยีของเครื่องยนต์ SMART HYBRID ที่จะพาทุกคนไปพบกับทุกความสมาร์ทในการเดินทาง ให้เราสามารถเลือกใช้ชีวิตได้อย่างชาญฉลาด ด้วยเครื่องยนต์ขนาด 1.5 ลิตร เกียร์อัตโนมัติ มีขนาดมิติความยาว 4,395 มิลลิเมตร ความกว้าง 1,735 และความสูง 1,690 มิลลิเมตร นอกจากจะประหยัดน้ำมันสูงสุดถึง 17.9 กิโลเมตรต่อลิตร ยังเสริมประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนให้รถออกตัวได้อย่างนุ่มนวล โดยมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เพียง 134 กรัม/กิโลเมตร การบำรุงรักษาง่ายไม่แตกต่างจากรถเครื่องยนต์เบนซิน ใช้งานได้อย่างไร้กังวล เพราะรับประกันอายุแบตเตอรี่นานถึง 5 ปี”

“NEW SUZUKI ERTIGA SMART HYBRID ”ยังโดดเด่นด้วยดีไซน์ทั้งภายนอกและภายใน กระจังหน้าโครเมียมดีไซน์ใหม่ ผสมผสานด้วยไฟหน้าโปรเจคเตอร์ พร้อมระบบเปิด-ปิดไฟหน้าอัตโนมัติพร้อมฟังก์ชัน GuideMe (Automatic turn-on/off headlight with guide me functionality) สะดวกแม้ยามค่ำคืน ไฟท้ายแบบ LED แบบ Light Guides และสัญลักษณ์ Hybrid ที่บริเวณประตูด้านท้าย กระจกมองข้างพับออโต้ (Auto Retractable Outside Mirror) เสาอากาศแบบใหม่ ล้ออะลูมิเนียมอัลลอยแบบทูโทน ขนาด 15 นิ้ว

การออกแบบภายในบริเวณคอนโซลด้านหน้าและแผงประตูสีดำตกแต่งลายไม้สีเทา มาพร้อมกับอุปกรณ์อำนวยความสะดวกที่รองรับการใช้งานอย่างครบครัน มาตรวัดพร้อมจอ LCD แสดงพลังงานแบตเตอรี่ และสถานะข้อมูลสำคัญของตัวรถ อาทิข้อมูลการขับขี่ Driving G-Force พร้อมอัตราสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง เชื่อมต่อกับความบันเทิงในทุกเส้นทางด้วยจอแสดงผลระบบสัมผัส ขนาด 10 นิ้ว ฟังก์ชันเอนเตอร์

เทนเมนท์ครบครัน ด้วยเครื่องเล่นวิทยุ MP3 และ WMA พร้อมระบบเชื่อมต่อ Bluetooth และระบบเชื่อมต่อสมาร์ทโฟน สามารถรองรับการใช้งาน USB และ HDMI

พวงมาลัยมัลติฟังก์ชันทรง D-Shape พร้อมปุ่มควบคุมความเร็วอัตโนมัติ Cruise Control ปุ่มควบคุมเครื่องเสียง และปุ่มควบคุมระบบสั่งการโทรศัพท์บนพวงมาลัย สะดวกสบายทุกการขับขี่ ด้วย Keyless entry และ Keyless Push Start พร้อมแท่นชาร์จโทรศัพท์แบบไร้สาย และช่องจ่ายไฟสำรอง 12V มากถึง 2 ตำแหน่ง ทั้งยังสะดวกสบายด้วยช่องวางเครื่องดื่ม 8 ตำแหน่ง พร้อมช่องเป่าลมเย็นบริเวณคอนโซลกลาง และเย็นสบายอย่างทั่วถึงด้วยระบบปรับอากาศสำหรับผู้โดยสารด้านหลังสะดวกสบายตลอดการเดินทาง

ภายในห้องโดยสารกว้างขวางและสะดวกสบาย ด้วยที่นั่ง 3 แถว 7 ที่นั่ง พร้อมฟังก์ชันการปรับพับเบาะที่เหมาะกับทุกไลฟ์ไสต์ เบาะนั่งแถวที่สองปรับพับแยกเบาะแบบ 60:40 แถวที่สามแบบ 50:50 สามารถเลื่อนสไลด์ได้ 240 มิลลิเมตร จัดสรรสัมภาระได้อย่างลงตัวกับพื้นที่เก็บของอเนกประสงค์บริเวณใต้ห้องเก็บสัมภาระ เปิด-ปิด ได้อย่างอิสระ 50:50

แพลตฟอร์ม HEARTECT เทคโนโลยีอันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของซูซูกิซึ่งช่วยเสริมสมรรถนะในการขับเคลื่อนเป็นไปอย่างคล่องตัว ปลอดภัย และประหยัดน้ำมัน ด้านความปลอดภัยมาพร้อมกับระบบถุงลมนิรภัย SRS คู่หน้า ระบบเบรก ABS ช่วยป้องกันล้อล็อกขณะเบรกกระทันหัน พร้อมระบบ EBD ช่วยกระจายแรงเบรกได้อย่างสมดุล เสริมด้วยระบบควบคุมเสถียรภาพในการทรงตัว ESP และการปรับแต่ง module ยังเหมาะกับการขับในเมืองด้วยระบบ Idling Stop ที่ช่วยลดการสิ้นเปลืองน้ำมันขณะรถหยุดนิ่ง ขับขี่อย่างมั่นใจในทุกเส้นทางด้วยระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน (Hill Hold Control),จุดยึดเบาะสำหรับเด็ก ISOFIX และ Top tether, กล้องมองภาพพร้อมเซ็นเซอร์ที่กะระยะในขณะถอยหลังได้อย่างแม่นยำ ปลอดภัยยิ่งขึ้นด้วยการป้องกันการโจรกรรมด้วยระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer

สำหรับ “NEW SUZUKI ERTIGA SMART HYBRID” แบ่งเป็น 2 รุ่น คือ GL และ GX เกียร์อัตโนมัติ มีสีทั้งหมด 4 สีได้แก่ สีแดง (สีใหม่) Mellow Deep Red, สีขาว (Pearl Snow White) สีเทา (Metallic Magna Gray) และสีดำ (Cool Black Metallic)

นอกจากนั้น ภายในบูธรถยนต์ซูซูกิ ยังคับคั่งไปด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพรุ่นยอดนิยมจากซูซูกิ ประกอบไปด้วย SUZUKI SWIFT สปอร์ตแฮทช์แบ็กยอดนิยม สร้างยอดขายเป็นอันดับหนึ่งของซูซูกิมาอย่างต่อเนื่อง ดีไซน์อันโดดเด่น เครื่องยนต์รหัส K12M ขนาด 1.2 ลิตร หัวฉีดคู่ DUALJET ช่วยลดมลพิษและประหยัดน้ำมันถึง 23 กิโลเมตรต่อลิตร ในราคาเริ่มต้นเพียง 567,000 บาท

นายวัลลภ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากความพร้อมทางด้านผลิตภัณฑ์ที่จะนำไปจัดแสดงแล้ว ซูซูกิยังได้ร่วมมือกับสถาบันการเงินชั้นนำเข้ามาร่วมเป็นพันธมิตรพร้อมทีมงานคอยให้คำปรึกษาทางด้านสินเชื่อแก่ลูกค้า ซึ่งจะทำให้มีความหลากหลายในด้านของสินเชื่อต่างๆ มากขึ้นและเป็นทางเลือกที่ดีในการเป็นเจ้าของรถยนต์ซูซูกิได้ง่ายยิ่งขึ้น ด้วยแคมเปญพิเศษในชื่อโครงการว่า “SUZUKI SUPER FLASH DEAL” ที่จะมอบให้เป็นของขวัญปีใหม่สำหรับลูกค้าที่จองรถยนต์ซูซูกิทุกท่าน รายละเอียดและเงื่อนไขต่างๆ เป็นไปตามที่บริษัทฯ กำหนด ผู้สนใจสามารถเยี่ยมชมและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่บูธรถยนต์ซูซูกิ ภายในงานมหกรรมยานยนต์ ครั้งที่ 39 ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-12 ธันวาคม 2565 ณ อาคารอิมแพ็ค ชาเลนเจอร์ 1-3 เมืองทองธานี หรือติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่โชว์รูมรถยนต์ซูซูกิทั่วประเทศใกล้บ้านท่าน
 

เรื่องก่อนหน้านิชิโนะ ยิ้มแข้งช้างศึกฟิตเต็มถังพร้อมบู๊นครปฐม
เรื่องถัดไปสุโขทัยคว้า บาจโจ้ บินถึงไทย 8 ธ.ค. - ดึง เลอสันต์ คืนทัพเลกสอง