ฉลามชล สู้สุดใจ! ไล่ตีเจ๊า ปราสาทสายฟ้า น.88 แบ่งแต้มสุดมันส์

ฉลามชล สู้สุดใจ! ไล่ตีเจ๊า ปราสาทสายฟ้า น.88 แบ่งแต้มสุดมันส์


ธนกฤต โชคเมืองปัก ซัดประตูแรกในไทยลีก พา บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ออกนำ แต่โดน ชลบุรี เอฟซี ฮึดบดเจ๊า น.88 หวุดหวิดจาก อมาดู อ็อตตาร่า ทำให้ "ปราสาทสายฟ้า" ชวดทำสถิติคว้าชัย 9 นัดติดในลีก แต่ยังยึดจ่าฝูงต่อ ห่าง ทรู แบงค็อกฯ 4 คะแนน ขณะที่ "ฉลามชล" รั้งที่ 11

การแข่งขันฟุตบอลไทยลีก 2023-24 เลกสอง นัดที่ 21 ประจำวันอาทิตย์ 10 มี.ค. 2567  ที่สนามชลบุรี ยูทีเอ สเตเดี้ยม "ฉลามชล" ชลบุรี เอฟซี ทีมอันดับ 12 ของตาราง ที่มี 21 แต้ม จาก 20 นัด เปิดบ้านรับมือ "ปราสาทสายฟ้า" บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทีมจ่าฝูงที่มี 45 แต้ม จาก 20 นัด 

 ประตูเดียวที่เกิดขึ้นในช่วงครึ่งแรก น.25 จากจังหวะที่ เคนเน็ต ดูกอล ได้บอลกลางสนามก่อนจะวางบอลยาวไปแดนหน้า บุคฆอรี เหล็มดี กองหลังฉลามชล ดึงบอลลงไม่ดี ธนกฤต โชติเมืองปัก เห็นช่องวิ่งมาจากด้านหลังเข้าไปปั่นบอลโค้ง ๆ บอลเสียบสามเหลี่ยมเข้าประตูไปช่วยให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด บุกไปขึ้นนำ ชลบุรี เอฟซี 1-0 และจบ 45 นาทีแรกด้วยสกอร์นี้

ช่วงครึ่งหลัง น.52 ธีราทร บุญมาทัน เปิดบอลจากแดนหลังเข้าไปในกรอบเขตโทษ กิลเยร์เม บิสโซลี โหม่งตั้งบอลได้ ทว่า เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว อยู่ใกล้บอลพยายามโหม่งสกัดบอล แต่กลายเป็นตั้งบอลมาให้ กิลเยร์เม บิสโซลี ได้ยิงโอเวอร์เฮด บอลมาเข้าทาง โกรัน เคาซิช วิ่งตามมาล้มตัวยิงบอลพุ่งผ่านเสาออกหลังไป

น.88 เป็นฝั่งเจ้าบ้านฉลามชล ที่มาได้ประตูตีเสมอ 1-1 จากจังหวะที่ อมาดู อ็อตตาร่า ได้บอลทางขวาก่อนจะลากจี้ตัดเข้าในมาในกรอบเขตโทษแล้วตัดสินใจยิงบอลพุ่งไปชนเสาสองเด้งเข้าประตูไปอย่างสวยงาม

 จบเกม ชลบุรี เอฟซี เปิดบ้านเสมอ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด 1-1 ทำให้ "ฉลามชล" เสมอ 2 เกมติด มีเพิ่มเป็น 22 แต้ม ขณะที่ "ปราสาทสายฟ้า" หยุดสถิติชนะรวดในลีกไว้ที่ 8 นัดติด มีเพิ่มเป็น 46 คะแนน ยังนำเป็นจ่าฝูงต่อไป โดยทิ้งห่างทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด อยู่ 4 แต้ม แต่แข่งมากกว่า 1 นัด

 สำหรับโปรแกรมต่อไปทั้งสองทีมจะลงเตะในศึกฟุตบอลถ้วยรีโว่ คัพ 2023/24 รอบ 16 ทีมสุดท้าย วันพุธที่ 13 มีนาคม 2567 ชลบุรี เอฟซี เปิดรังดวล บีจี ปทุม ยูไนเต็ด ที่สนามชลบุรี ยูทีเอ สเตเดี้ยม เวลา 19.00 น. ส่วนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านรับมือ อุทัยธานี เอฟซี ที่สนามช้าง อารีน่า เวลา 19.00 น.

รายชื่อผู้เล่นของทั้งสองทีม

 ชลบุรี เอฟซี :
แพทริค เดย์โต (ผู้รักษาประตู), ฉัตรมงคล เรืองฐณโรจน์ (นูรูล ศรียานเก็ม แทน น.58), ชาญณรงค์ พรมศรีแก้ว, วิลเลียน ลิร่า, ยานนิค โบเน่, ลี ชาน-ดง (ธีรภัทร แก้วผึ่ง แทน น.9 (ยศกร บูรพา แทน น.58)), กิตติพงษ์ แสนสนิท, เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว, กษิดิศ กาฬสินธุ์ (จักรพงษ์ แสนมะฮุง แทน น.66), บุคฆอรี เหล็มดี (พงศกร ตรีสาตร์ แทน น.46), อมาดู ออตตาร่า

 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด : ศิวรักษ์ เทศสูงเนิน (ผู้รักษาประตู), ธีราทร บุญมาทัน (พรรษา เหมวิบูลย์ แทน น.84), พีรดนย์ ฉ่ำรัศมี (โกรัน เคาซิซ แทน น.46), กิลเยร์เม บิสโซลี, ศุภชัย ใจเด็ด (ลอนซานา ดุมบูญา แทน น.68), ดิออน กูลส์, นฤบดินทร์ วีรวัฒโนดม, เคนเน็ต วิลเลียม ดูกอล, เจฟเฟอร์สัน ทาบินาส, ธนกฤต โชติเมืองปัก (รัตนากร ใหม่คามิ แทน น.78), คิม มิน-ฮยอก

เรื่องก่อนหน้านิชิโนะ ยิ้มแข้งช้างศึกฟิตเต็มถังพร้อมบู๊นครปฐม
เรื่องถัดไปปรเมศย์ แฮตทริกฉลองติดทีมชาติไทย กิเลนผยอง เปิดบ้านคว่ำ ขอนแก่น 4-0