Interview : โค้ชแบน กับภารกิจพา แข้งเทพ ลุ้นแชมป์ไทยลีก

Interview : โค้ชแบน กับภารกิจพา แข้งเทพ ลุ้นแชมป์ไทยลีก

ก่อนหน้านี้เขาถูกวิจารณ์อย่างหนักกับสไตล์การทำทีมที่เน้นครองบอล เล่นปลอดภัย ซึ่งสวนทางกับผลงานที่ไม่เป็นตามคาด

อย่างไรก็ตามหลังผ่านไป 13 เกม ในรีโว่ ไทยลีก 2021-22 เขาใช้ผลงานลบคำวิจารณ์ด้วยการพา ทรู แบง ค็อก ยูไนเต็ด คว้าชัยชนะต่อเนื่อง โดยล่าสุดบุกชนะ ขอนแก่น ยูไนเต็ด 1-0 ทำให้ยังคงรักษาตำแหน่งจ่าฝูง แต่ตลอดหลายปี แข้งเทพ คุ้นชินกับบรรยากาศลักษณะนี้ เมื่อมีช่วงขาขึ้น แต่กลับผิดหวังในตอนท้าย

แต่ในฤดูกาลนี้ พวกเขาจะรักษามาตรฐานอย่างไรเพื่อไปให้ถึงเป้าหมาย ตลอด 13 เกมที่ผ่านมา บ่งบอกสไตล์การเล่นของ ทรู แบงค็อกฯ ได้ชัดเจนแค่ไหน “โค้ชแบน” ธชตวัน ศรีปาน จะมาตอบทุกคำถามที่คุณอยากรู้

มด สุรเดช : ทีมทำผลงานได้ดี และยังคงรักษาจ่าฝูงไว้ได้ โค้ชแบนมองภาพรวมการเล่นของทีมตอนนี้เป็นอย่างไร

โค้ชแบน : ถึงตอนนี้ยังไม่ถือว่าพอใจฟอร์มการเล่นเท่าไหร่ตั้งแต่ต้นปี หลายคนมองว่า ผมทำบอลเซฟก็อยู่ในช่วงที่เราเรียนรู้ และปรับจากปีที่แล้วในเรื่องคาแรคเตอร์ผู้เล่นในแต่ละเกมที่กว่าจะลงตัว รวมถึงเรื่องวินัยเกมรับมาเป็นอันดับแรกเพื่อให้ได้แทคติกที่เหมาะ แต่กลายเป็นว่าช่วงที่ปรับไปปรับมามันยังไม่ลงตัวทั้งเรื่องการจัดผู้เล่น และเกมรับที่เหมาะสม แต่ใน 2-3 เกมหลังพอปรับลงตัวมากขึ้น ปรับ วานเดอร์ หลุยส์ และ เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดส ไปอยู่ในที่เหมาะกับสไตล์ของเราก็เห็นความแตกต่างมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมา

เด็กเริ่มจะเข้าใจสไตล์ที่เราพยายามถ่ายทอดให้ และเหมือนที่บอก คู่ต่อสู้เขารู้ว่าเราเล่นแบบไหน ถ้าเปิดมาเล่นกับเราก็อาจรอโดนเหมือนกันก็เป็นสไตล์การทำงานของเราที่ทำให้คู่ต่อสู้เกรงกลัว ตอนนี้สองแมตช์ที่ผ่านมาก็ค่อนข้างลงตัว


มด สุรเดช : ทีมงาน และนักฟุตบอลทำงานหนักแค่ไหนเพื่อเล่นให้ได้ตามรูปแบบที่วางไว้

โค้ชแบน : ก็เคี่ยวเข็ญแล้วก็หนัก และมีการอบรมกันพอสมควรกับสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา ทีมงานสตาฟฟ์เองอย่าง ใหม่(ภานุพงษ์ วงษา)กับ ซารีฟ สายนุ้ย ก็ช่วยผมได้เยอะรวมถึงทีมงานเบื้องหลังหลายคนก็ช่วยซัพพอร์ทก็ถือเป็นทีมงานหลังบ้านที่แข็งแกร่งของผม

ส่วนนักฟุตบอลเองพยายามปรับตัวมาตลอดในเรื่องรายละเอียดหรือความซับซ้อนสับสนกับการทำงานของผมในรายละเอียดแทคติก ซึ่งเขาพยายามทำความเข้าใจ และเริ่มเรียนรู้ไปด้วยกัน พอเห็นผลผมมองว่าทุกคนก็เกิดความมั่นใจมากขึ้น

มด สุรเดช : มองอย่างไรกับผลงานที่ทีมที่สามารถยิงประตูได้เยอะ และเสียประตูให้คู่แข่งน้อย

โค้ชแบน : ช่วงต้นฤดูกาลมีคนวิจารณ์ผมเยอะ เราก็รู้ว่า จริงๆเราทำบอลสไตล์เกมบุกมาตลอด ถ้าใครได้เห็น เราทำบอล ครองบอล ไม่ใช่ได้ประตูแล้วเน้นเซฟ จริงๆเป็นบอลเกมบุกพอทำ แบงค็อก ก็รู้ว่าโจทย์แรกคือสิ่งที่คนบอกว่า เราเสียประตูบ่อย และเยอะ ซึ่งเราก็มาดูว่า มันเกิดจากสาเหตุอะไร พอเราเสียสามประตูในเกมกับ สมุทรปราการ ตอนนั้นเราเหลือ 10 คน แต่ก็รู้ว่า เราเสียประตูทุกแมตช์ ทีนี้เราก็ปรับวิธีการเรื่องเกมรับนิดหน่อย ก็คุยกับเด็กๆในการซ้อม และให้โจทย์เด็กไปหลายคนที่เล่นในตำแหน่งที่ต้องการเกมรับเวลาเราขึ้นไปทำเกมรุก จะเห็นว่า ทำได้ในระดับหนึ่งที่เสียประตูน้อย แต่เกมบุกยังตื้ออยู่ เพราะเด็กยังทำความเข้าใจเกมรับ และป้องกันเกมโต้กลับของคู่ต่อสู้ ทำให้ความมีอิสระในการเติมเกมรุกมันหายไป

แต่พอทุกคนเข้าใจ เราเริ่มทำเกมบุกบาลานซ์ขึ้น มันเกี่ยวเนื่องกับเรื่องเวลา และความสัมพันธ์ที่ทำให้เราหลากหลายในเกมรุกมากขึ้นก็เป็นเรื่องของการปรับตำแหน่งผู้เล่น และแทคติกให้เหมาะด้วย

มด สุรเดช : ทรู แบงค็อกฯ ในตอนนี้ใกล้เคียงการลุ้นแชมป์เหมือนสมัยคุม เมืองทอง ยูไนเต็ด ปี 2016 ขนาดไหน

โค้ชแบน : สองเกมที่ผ่านมา ผมเห็นผลแค่แมตช์นี้ที่ทุกคนทำผลงานได้ดีตามที่เราต้องการ ทำให้เราเห็นภาพหลังจากนี้ไปแล้วที่รู้สึกว่าลงตัว นั่นคือสิ่งที่ทำให้ผมมีความสุข แต่มีสิ่งที่ต้องปรับในแต่ละเกมอยู่แล้วคือรายละเอียดฟุตบอลที่ต้องเจอ เราคงไม่จับรูปแบบนี้ที่คิดว่า ลงล็อคแล้วไปเจอคู่ต่อสู้ที่เล่นอีกแบบแล้วจะให้ลงล็อคไปทุกเกม มันเป็นไปไม่ได้ มันต้องมีการปรับระหว่างเกมในคู่ต่อสู้ที่ต้องเจอ

เราโชคดีที่ได้ นิว ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ มาร่วมทีมในช่วงต้นฤดูกาล ก็เป็นจิ๊กซอว์สำคัญ ซึ่งก่อนที่ นิว จะมาเราพยายามหาจิ๊กซอว์ที่จะลงล็อคตำแหน่งตรงนี้ แต่ไม่ได้ตามที่ต้องการก็คิดว่าคงตัดปัญหานั้นไป แต่กลายเป็นเซอร์ไพรส์ที่เป็นความเหมาะสมพอดี ผมเคยร่วมงานกับเขาช่วง 5-6 นัดแรกก่อนย้ายไป เชียงราย

ตอนนี้เขาเหมือนจิ๊กซอว์ที่ลงล็อคพอดี เขาเองมีการเปลี่ยนแปลงทัศนคติกับเมื่อก่อนตอนเล่น เมืองทอง และไปญี่ปุ่นกลับมา ผมได้เห็นการเปลี่ยนแปลงของเขา ซึ่งเขาเป็นตัวอย่างที่ดีของนักฟุตบอลในทีมเรื่องการตั้งใจฝึกซ้อมความจริงจัง วิ่งตลอดเกมทั้งซ้อม และแข่ง จะเห็นว่าสถิติพอมี นิว เข้ามาเขาจะวิ่งมากกว่า ปกเกล้า ซึ่งทำให้มีมดงานทำให้เกมรับเกมรุกช่วยเราได้เยอะมาก

มด สุรเดช : กับ วานเดอร์ หลุยส์ และ เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดส ที่ฤดูกาลนี้ดูเข้าใจในวิธีการมากยิ่งขึ้น ?

โค้ชแบน : พอเราเอา แอนโธนี คาร์เตอร์ เข้ามาแล้วฟอร์มเขาอาจยังปรับตัวกับลีกไทยไม่ได้ ทำให้เราต้องปรับพอสมควร จากที่วางโจทย์ตอนแรกคิดว่าจะใช่กลับทำให้เกมรับเรามีปัญหาเหมือนกัน ผมก็ลองหมุนเป็นแบบอื่นๆ แต่ตำแหน่งของ วานเดอร์ และ เฮแบร์ตี้ จะช่วยในตำแหน่งพื้นที่เหมือนเดิม

แต่เรื่องเกมรับจะปรับรูปแบบ และทำให้มีอิสระมากขึ้น เวลาเป็นเกมรุกพื้นที่สุดท้าย วานเดอร์ ก็อาจไม่ใช่ตัวด้านในเต็มตัว เพราะเราต้องการตีโซนด้านข้างก็บอกแทคติกกันตรงๆ เพราะทุกคนมีวิเคราะห์อยู่แล้ว อยู่ที่ว่าเขาจะมาเล่นกับเราแบบไหน อยู่ที่ว่าจะป้องกันแบบไหน ถ้าขึ้นมาก็อาจทำให้เรามีโอกาส แต่ถ้าเล่นเกมรับกับเรา เราก็มีโอกาสเข้าทำเหมือนกัน บางที เฮแบร์ตี้ ก็อาจเป็นศูนย์หน้าก็อยู่ที่แทคติกของคู่ต่อสู้ที่ต้องเจอ


มด สุรเดช : ปัญหาการยิงจุดโทษของ เฮแบร์ตี้ แฟร์นานเดส ที่ยังมีผิดพลาดบ่อย?

โค้ชแบน : เขายังคงเป็นมือหนึ่งในการยิงจุดโทษ ไม่ว่าเขาจะพลาดกี่ครั้ง เราก็ยังมั่นใจในตัวเขา เพียงแต่เขามั่นใจในตัวเองหรือเปล่า เราจะยังบอกว่า เราจะให้เขายิง ถ้ามั่นใจก็ยิง ถ้าไม่มั่นใจก็บอก แต่เขาก็บอกว่า มั่นใจก็ให้เขาเป็นมือหนึ่ง แต่เกมที่ผ่านมาเขาอยากให้ คาร์เตอร์ ยิงเพื่อเรียกความมั่นใจก็บ่งบอกถึงสปิริตของทีมที่ต้องการสร้างความมั่นใจให้เพื่อน

อย่างแมตช์ล่าสุดกับ ราชบุรี มิตรผล เอฟซี ที่ เฮแบร์ตี้ ยิง ไม่ใช่เขายิงไม่ดี เขายิงทั้งแรง ทิศทางดี เพียงแต่ประตูอ่านใจพุ่งจับทางถูก เพราะเขาซ้อมมาอย่างดี

มด สุรเดช : ยังมองว่าทีมชุดนี้ต้องปรับในเรื่องใดมาก

โค้ชแบน : ก็คงปรับในเรื่องของแทคติกที่ต้องเจอคู่ต่อสู้ในแต่ละเกมมากกว่า เพราะโจทย์มันเปลี่ยนไป หรือแต่ละสถานการณ์เปลี่ยนไป บางทีจัดแบบนี้กับคู่ต่อสู้ที่เล่นเกมรับพื้นที่สุดท้ายเยอะก็อาจขาดตัวเป้าไปหรือเปล่า ซึ่งก็ต้องอ่านสถานการณ์คู่ต่อสู้แล้วค่อยปรับ ก็จะให้โจทย์เด็กไปซ้อมอยู่แล้วว่า เดี๋ยวนำบอลมาพื้นที่นี้ระบบนี้พื้นที่นี้ เด็กก็จะเข้าใจเป้าหมายของเรา

มด สุรเดช : มองโปรแกรมที่จะต้องเจอในช่วงนี้อย่างไรในฐานะขึ้นมาเป็นจ่าฝูง

โค้ชแบน : จริงๆผมว่าปีนี้มันหนักกันทุกทีมอย่างบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด, การท่าเรือ เอฟซี, บีจี ปทุม ยูไนเต็ด หรือเราเองเวลาไปเล่นเยือนหรือเหย้าไม่ได้การันตีจะชนะ 100% ก็แล้วแต่จังหวะแล้วแต่ตัวผู้เล่นที่พร้อม หลายทีมพัฒนาเยอะ เกมในบ้านเขาก็แข็งแกร่ง ฉะนั้นทุกทีมที่เราเล่นด้วยถือเป็นงานหนัก เพียงแต่เราจะวางแทคติค และประสบความสำเร็จในแทคติกนั้นได้มากแค่ไหน ก็พยายามเต็มที่วางเป้าสามแต้มทุกนัดอยู่แล้ว

มด สุรเดช : ทรู แบงค็อกฯ เคยยืนในจุดนี้บ่อย แต่กลับแผ่วในช่วงหลัง จะทำอย่างไรให้ความมั่นใจของลูกทีมต่อยอดไปถึงเป้าหมาย

โค้ชแบน : พยายามให้เขาเชื่อมั่นในรูปแบบการเล่น แทคติกของเรา พยายามทำให้เหมือนสองแมตช์ที่มันล็อคลงที่เขาเข้าใจแล้วในรูปแบบของเขา สร้างความมั่นใจให้เล่นรูปแบบนี้ เล่นด้วยความมุ่งมั่น กระหาย ให้รักษามาตรฐานให้ได้

แต่เราเข้าใจด้วยฟุตบอลทั่วโลกจะมีช่วงขึ้นช่วงลง ไม่มีใครอยู่ตลอด แต่พอลงแล้วเราจะสามารถกลับมาได้เร็วไหมก็เหมือนแมตช์ไปแพ้ บีจี ปทุมฯ และเสมอ หนองบัวพิชญ และเป็นเกมหนักที่ต้องไปเยือน เชียงราย ซึ่งเด็กก็กลับมาได้เร็ว มาเจอแมตช์ เทโร สองแมตช์นี้ทำให้เห็นว่านักฟุตบอลมุ่งมั่นทำงานหนัก และอยากพิสูจน์ให้เห็นว่าเราพยายามจะลุ้นแชมป์กับทีมใหญ่ๆเต็มตัว

มด สุรเดช : ฝากถึงแฟนบอล ทรู แบงค็อกฯ ที่อยากให้ทีมบินสูงแบบนี้ไปตลอด

โค้ชแบน : ก็เข้าใจว่าทุกคนหวังในทีม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด หวังอยากเห็นทีมเป็นแชมป์สักครั้ง ตัวผมเองเข้ามารับงานก็พยายามมุ่งมั่นอยากจะทำให้มันได้ไม่ว่าจะเป็นบอลลีก บอลถ้วยทั้งสองถ้วย

เราไม่รู้ว่าจะรักษามาตรฐานได้ดีขนาดไหนเพื่อไปเป็นแชมป์ แต่ก็หวังจะทำงานให้ได้สักแชมป์ไม่ว่าจะถ้วยใดถ้วยหนึ่งตามเป้าที่อยากทำให้แฟนบอลมีความสุข ก็พยายามที่จะรักษามาตรฐานการเล่น และอันดับในตาราง และไปให้ถึงปลายทางความสำเร็จคือการเป็นแชมป์ ก็จะทำให้เต็มที่พยายามทำให้ได้



เรื่องก่อนหน้านิชิโนะ ยิ้มแข้งช้างศึกฟิตเต็มถังพร้อมบู๊นครปฐม
เรื่องถัดไปประจวบตั้งโค้ชหระคุมทัพแทนทากิ