9 ทีมน้องใหม่สร้างเซอร์ไพรส์ไทยลีก

9 ทีมน้องใหม่สร้างเซอร์ไพรส์ไทยลีก

น้องใหม่ หนองบัว พิชญ เอฟซี ภายใต้การคุมทัพของ “โค้ชวัง” ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล พาทีมทำผลงานได้อย่างร้อนแรงในศึกรีโว่ ไทยลีก ช่วง 6 นัดหลังสุด โดยเฉพาะการเจอทีมใหญ่ที่ยังไม่เคยแพ้ใครทั้ง เสมอ ทรู แบงค็อกฯ กับ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และล่าสุดสร้างเซอร์ไพรส์เปิดบ้าน ชนะแชมปืเก่า บีจี ปทุมฯ 3-1 

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ทีมน้องใหม่จะมีผลงานทั้งที่เพิ่งเลื่อนชั้น เพราะที่ผ่านมา เคยมีบรรดาสโมสรน้องใหม่ขึ้นมาสั่นสะเทือนบนลีกสูงสุดมาแล้ว และบางทีมเป็นแชมป์ตั้งแต่ขึ้นมาเล่นในไทยลีกปีแรก จะมีทีมใดบ้าง ติดตามได้ที่นี่

สมุทรสงคราม เอฟซี (2008)

“ปลาทูคะนอง” เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นในไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร เมื่อปี 2008 ภายใต้การคุมทีมของ “น้าฉ่วย” สมชาย ชวยบุญชุม แน่นอนว่า ในฐานะทีมน้องใหม่ที่ไม่ใช่สโมสรเงินถุงเงินถัง การจะเอาตัวรอดบนลีกสูงสุดที่มีมาตรฐานสูงย่อมเป็นเรื่องยาก และทำให้หลายคนมองว่า นี่คือทีมเต็งที่จะต้องตกชั้นกลับดิวิชั่น 1 ในปีถัดไปแน่นอน

แต่สิ่งที่เกิดขึ้นกลับตรงข้าม เมื่อ “น้าฉ่วย” พา สมุทรสงคราม ต่อกรทีมอื่นได้อย่างไม่เกรงกลัว ก่อนท้ายที่สุดจบฤดูกาลด้วยอันดับ 7 เก็บชัยชนะไป 11 เกม เสมอ 10 และแพ้ 9 ซึ่งนอกจากจะไม่ต้องหนีตกชั้นก็ยังทำให้ชื่อของ “ปลาทูคะนอง” ในยุคนั้นได้รับการยกย่องว่า เป็นหนึ่งในทีมชุดที่ดีที่สุดอีกด้วย


เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด (2009)

“กิเลนผยอง” สร้างเทพนิยายของตัวเองกับการเล่นบนลีกสูงสุดปีแรก โดยห่อนหน้านั้น พวกเขาประสบความสำเร็จเป็นทีมแรกที่สามารถคว้าแชมป์ลีกทั้งสามระดับในช่วงเวลาสามปีติดต่อกันเริ่มจาก ดิวิชัน 2 ในปี 2007, ดิวิชัน 1 ในปี 2008 และไทยพรีเมียร์ลีก ปี 2009

โดยปีแรกในไทยแลนด์พรีเมียร์ลีก 2009 ถือเป็นการเล่นลนลีกสูงสุดนั้บตั้งแต่ก่อตั้งสโมสรมา 20 ปี เอสซีจี เมืองทองฯ ในชุดนั้นประกอบไปด้วย "ลีซอ" ธีรเทพ วิโนทัย, ซูมาโฮโร ยายา, ปิยะชาติ ถามะพันธ์, รณชัย รังสิโย รวมถึงสองดาวเตะอย่าง ธีรศิลป์ แดงดา และ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ 

เกมสุดท้าย เมืองทองฯ เปิดบ้านเอาชนะ บีอีซี เทโร ศาสน 2-0 คว้าแชมป์มาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ และสร้างสถิติเป็นทีมเดียวไม่แพ้ใครในบ้าน ก่อนจากนั้นจะกลายเป็นยักษ์ใหญ่เมืองไทย เดินหน้ากอบโกยความสำเร็จมากมาย โดยเฉพาะปี 2012 ที่คว้าแชมป์ลีกแบบไร้พ่าย ซึ่ง มาริโอ ยูรอฟสกี้ และ ดักโน่ เซียกา กุนซือและผู้ช่วยโค้ชในปัจจุบันก็อยู่ในทีมชุดนั้นด้วย


สุพรรณบุรี เอฟซี (2013)

เดิมที สุพรรณบุรี เอฟซี ภายใต้การนำของ “บิ๊กท็อป” วราวุธ ศิลปอาชา ที่เวลานั้นคว้าตั๋วเลื่อนชั้นในฐานะทีมอันดับ 2 จากดิวิชั่น 1 ตั้งเป้าจะต้องจบอันดับเลขตัวเดียวเป็นอย่างน้อยในการเล่นบนลีกสูงสุดปีแรก

แต่ อ.พยงค์ ขุนเณร กุนซือเวลานั้น กลับทำผลงานดีกว่าที่คาด เมื่อพา “ช้างศึกยุทธหัตถี” เกาะกลุ่มหัวตารางตั้งแต่เปิดจบซีซั่นนั้น จบฤดูกาลด้วยอันดับ 4 กับสถิติเกมรับเหนียวแน่นที่เสียเพียง 31 ประตู ซึ่งน้อยเป็นอันดับ 2 เป็นรองเพียงแชมป์อย่าง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เสียเพียง 23 ลูกเท่านั้น

ปัจจุบัน อ.พยงค์ ขุนเณร หวนกลับมาคุม สุพรรณบุรี เอฟศี อีกครั้ง โดนแทนที่ อเดบาโย กาเดโบ เพื่อช่วยกู้วิกฤติทีมในฤดูกาล 2021-22


นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี (2015)

“สวาทเเคท” คว้าแชมป์ ดิวิชั่น 1 ในปี 2014 คว้าตั๋วลุยไทยลีกเป็นครั้งแรกของสโมสร ก่อนสร้างผลงานได้น่าสนใจ โดยเฉพาะเกมหลังบ้านที่ยอดเยี่ยม เมื่อตลอดทั้งซีซั่น พวกเขาเสียไปเพียง 43 ลูก น้อยเป็นอันดับ 5 ของลีก


สุโขทัย เอฟซี (2016)

ถือเป็นทีมที่เคยสร้างเซอร์ไพรส์ได้มากที่สุดทีมหนึ่ง สำหรับ “ค้างคาวไฟ”กับการก้าวขึ้นมาเล่นบนลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในปี 2016

สุโขทัย ในเวลานั้นอยู่ภายใต้การคุมทีมของ “น้าฉ่วย” สมชาย ชวยบุญชุม ที่มีแกนหลักอย่าง ดิยุฟ บิรัม , อันทอน เซมลิเอนุกกิน โดยเฉพาะรายของ จอห์น บาจโจ้ ที่เป็นตัวทีเด็ด ยิ่งกว่านั้นยังมีตัวจบสกอร์สุดคมอย่าง เรนาน มาร์เกวซ เป็นตัวทำประตู ซึ่งเขากดไปถึง 15 ประตู กลายเป็นดาวซัลโวประจำทีม และพา “ค้างคาวไฟ” จบถึงอันดับ 7 ของตาราง 

ยิ่งกว่านั้นยังเป็น 1 ใน 4 ทีม รอบรองช้าง เอฟเอ คัพ แล้วจับฉลากคว้าสิทธิ์ลุย เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบคัดเลือกในปี 2017 ไปครอง หลังจากถูกตัดจบกลางคัน


อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด (2017)

รองแชมป์ยามาฮ่า ลีกวัน 2016 คว้าตั๋วเลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร ก่อนจะออกสตาร์ทต้นฤดูกาลได้ยอดเยี่ยม เมื่อผงาดขึ้นนำจ่าฝูง ภายใต้แกนหลักอย่าง จอนาตา แวร์ซูร่า, สิโรจน์ ฉัตรทอง, วิคเตอร์ คาร์โดโซ่ และ เนบิญ่า บายรัม

โดยรายของ คาร์โดโซ่ ที่อยู่กับทีมตั้งแต่ดิวิชั่น 2 ยังโชว์ฟอร์มสุดโหด เพราะแม้เป็นกองหลัง แต่กับยิงประตูให้ทีมไปถึง 11 ประตู และพาทีมจบอันดับ 10 ของตาราง อย่างไรก็ตามปีถัดมา ทีมเริ่มประสบปัญหาทางการเงิน และทำให้ตกช้นไปเล่นไทยลีก 2 ในปี 2019


พีที ประจวบ เอฟซี (2018)

“ต่อพิฆาต” เลื่อนชั้นขึ้นมาเล่นบนลีกสูงสุดครั้งแรกในประวัติ เมื่อฤดูกาล 2018 ภายใต้การคุมทีมของ "โค้ชวัง" ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล ซึ่งขุมกำลังส่วนใหญ่ยังไม่ได้ดูน่ากลัวในสายตาทีมอื่น แม้จะได้ผู้เล่นอย่าง จิตปัญญา ทิสุด และ อัดนาน โอราโฮวัช มาร่วมทัพ

แต่หลังฤดูกาลเริ่มต้น ประจวบ ที่อาจไม่ได้เต็มไปด้วยผู้เล่นฝีเท้าเกรดเอ แต่พวกเขาใช้ทีมเวิร์คที่ยอดเยี่ยมต่อกรคู่แข่งในไทยลีก และทำผลงานได้ดีขึ้นเรื่อยๆจนกลายเป็นทีมที่มองข้ามไม่ได้ ก่อนที่ปีนั้นจะจบซีซั่นด้วยอันดับ 6 และปีต่อมา “โค้ชวัง” พาทีมคว้าแชมป์โตโยต้า ลีก คัพ 2019 ซึ่งถือเป็นแชมป์ใบแรกในประวัติศาสตร์สโมสร และยังคงโลดแล่นอยู่ในลีกสูงสุดจนถึงปัจจุบัน


บีจี ปทุม ยูไนเต็ด (2020)

หลายคนอาจสงสัยว่า เพราะเหตุใด บีจี ปทุมฯ จึงอยู่ในลิสต์นี้ด้วย เพราะเต็มไปด้วยดาวดัง ซึ่งก็ไม่แปลกที่พวกเขาจะคว้าแชมป์ไทยลีก 2020 มาครอง

อย่างไรก็ตามหากย้อนกลับไปในช่วงเปิดฤดูกาล 2020 ใน 4 เกมแรกที่ยังแข่งขันกันปกติ เดอะ แรบบิท ยังมีขุมกำลังจากไทยลีก 2 เป็นหลักที่ไม่ได้เป็นแข้งชั้นนำ แม้จะมี ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, วิคเตอร์ คาร์โดโซ มาร่วมทีม ซึ่งก่อนเปิดซีซั่น ปวิณ ภิรมย์ภักดี ประธานสโมสร ยังเผยถึงเป้าหมายว่า ขอเพียงแค่อยู่รอดปลอดภัยบนลีกสูงสุด และยังไม่ขอมองถึงแชมป์ในเวลานั้น

แต่แล้วด้วยสถานการณ์โควิด-19 ที่ทำให้ไทยลีก ต้องปรับโปรแกรม และเปิดตลาดเสริมทัพช่วงพิเศษ ทำให้ บีจี ปทุมฯ เดินหน้าช็อปกระจาย เมื่อพวกเขาดูดแข้งฝีเท้าดีทั้ง สารัช อยู่เย็น, ธีรศิลป์ แดงดา และ ดิโอโก หลุยส์ ซานโต มาร่วมทีม ก็ทำให้พวกเขาสามารถคว้าแชมป์ไทยลีกหนแรกมาครองได้อย่างยิ่งใหญ่ด้วยสถิติที่แพ้ให้คู่แข่งไปเพียงเกมเดียวเท่านั้น


หนองบัวพิชญ เอฟซี (2021)

ปิดท้ายกันด้วย หนองบัวพิชญ เอฟซี ของ “โค้ชวัง” ธวัชชัย ดำรงอ่องตระกูล ที่ถูกแต่งต้งเป็นกุนซือ ก่อนพาทีมสร้างผลงานได้ยอดเยี่ยมกับขวบปีแรกบนลีกสูงสุดของสโมสร

แม้จะโชคร้ายเมื่อเสีย ลิดอร์ โคเฮน แนวรุกตัวเก่งตั้งแต่นัดแรกของฤดูกาล แต่ผู้เล่นหลายอื่น รวมถึงแข้งต่างชาติที่เพิ่งเสริมเข้ามาก็ทำงานร่วมกันได้ดี โดยเฉพาะ แฮมิลตัน โซอาเรส ที่ยิงเป็นว่าเล่น ยิ่งกว่านั้นยังเป็นอีกครั้งที่ “โค้ชวัง” นำผู้เล่นที่เคยถูกมองว่า ฝีเท้าไปไม่สุด และถูกมองข้ามจากทีมอื่น มาเปลี่ยนให้เป็นนักเตะคุณภาพจากการทำงานแบบทีมเวิร์ค น่นทำให้ หนองบัวพิชญ เอฟซี ยังคงเดินหน้าคว้าชัยต่อเนื่อง และเพิ่งเอาชนะ แชมป์เก่า บีจี ปทุมฯ 3-1 รั้งอันดับ 7 ของตาราง



เรื่องก่อนหน้านิชิโนะ ยิ้มแข้งช้างศึกฟิตเต็มถังพร้อมบู๊นครปฐม
เรื่องถัดไปศุภชัย-อ่อง ธู เหมาคนละสองพาบุรีรัมย์ ถล่มขอนแก่น 4-0