ก่อนถึง อานิเยร์ : ย้อนรอยแข้งเบอร์ 9 เมืองทอง ยูไนเต็ด

ก่อนถึง อานิเยร์ : ย้อนรอยแข้งเบอร์ 9 เมืองทอง ยูไนเต็ด

การมาของ เฮนรี่ อานิเยร์ หัวหอกดีกรีทีมชาติเอสโตเนีย ถูกจับตามองในฐานะศูนย์ตัวความหวังของ กิเลนผยอง

หัวหอกวัย 31 ปี ผ่านการเล่นฟุตบอลมาอย่างโชกโชนในลีกยุโรป อีกทั้งยังเคยย้ายในเอเชียมาแล้ว กับ ซูวอน เอฟซี ในลีกเกาหลีใต้ เมื่อปี 2019 ส่วนผลงานกับทีมชาติเอสโตเนีย เขาเป็นตัวหลักในทีมชุดปัจจุบันที่ลงเล่นไปถึง 70 นัด

แต่สิ่งที่น่าสนใจมากกว่าความคาดหวังเรื่องฝีเท้าคือการตัดสินใจสืบทอดเบอร์ 9 กับ กิเลนผยอง เพราะนี่คือเบอร์อาถรรพ์ของ เมืองทองฯ ที่มีเพียงไม่กี่คนที่ประสบความสำเร็จ เพราะส่วนใหญ่ไม่ต่างอะไรกับการเอาชื่อมาทิ้ง 

จะมีนักเตะคนใดบ้างที่กล้าเลือกสวมเบอร์ 9 ลงเล่นภายใต้สีเสื้อ กิเลนผยอง ผลงานกับเส้นทางของเป็นอย่างไร เรารวบรวมมาให้ติดตามกันที่นี่

กัวคู โจเอล จูเนียร์

เขาคือตำนานเบอร์ 9 คนแรกของสโมสรในยุคที่ใช้ชื่อ เมืองทอง-หนองจอก ยูไนเต็ด ในฤดูกาล 2007 และเป็นผู้เล่นคนแรกที่จารึกชื่อเป็นผู้ยิงประตูแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร กับผลงานยิง 8 ประตูตลอดฤดูกาล ครองตำแหน่งรองดาวซัลโวของทีมในฤดูกาลนั้น กับการคว้าถ้วยแรกของทีมคือแชมป์ลีกภูมิภาค ดิวิชัน 2 พร้อมกับได้สิทธิเลื่อนชั้นสู่ลีกพระรองเป็นหนแรก

ฌาคส์ ซามี ติโอเย

กองหน้าชาวไอวอรีโคสต์ เข้ามาสืบทอดหมายเลข “9” ต่อจาก กัวคู โจเอล จูเนียร์ โดยย้ายเข้ามาพร้อมกับ ยาย่า ซูมาโฮโร่ แนวรุกตัวเก่งที่ต่อมาได้ไปโลดแล่นไกลถึงลีกสูงสุดเบลเยียม ฤดูกาล 2008 ฌาคส์ ซามี ติโอเย ลงสนามไป 21 นัดจากทั้งหมด 30 เกม ยิง 11 ประตู จบฤดูกาลด้วยการเป็นรองดาวซัลโวของทีมและพา กิเลนผยอง ผงาดคว้าแชมป์ลีกพระรองเลื่อนชั้นสู่เวทีลูกหนังสูงสุดเมืองไทยเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสร ถือเป็นผู้เล่นเบอร์ 9 คนที่สองที่มีความทรงจำกับทีมได้อย่างสวยงาม

มาเน่ มุสตาฟา 

กองหน้าชาวเซเนกัล พกดีกรีอดีตดาวซัลโวเอ็มลีก มาเลเซีย ฤดูกาล 2007-2008 จากผลงานยิง 27 ประตู ซึ่งหากรวมฟุตบอลถ้วยในประเทศทั้งหมดแล้ว เขาทำไปทั้งสิ้น 32 ประตูจาก 33 เกม ในปี 2009 เลกแรก มาเน่ มุสตาฟา ย้ายมาเป็นสมาชิกใหม่ กิเลนผยอง น้องใหม่ที่เพิ่งขึ้นมาเล่นในไทยพรีเมียร์ลีกครั้งงแรก

ทว่าจากกองหน้าที่มีผลงานทำประตูถล่มทลาย เขากลับเล่นผิดฟอร์ม เมื่อได้รับโอกาสลงสนามทั้งหมด 8 นัด แบ่งเป็นตัวจริง 4 นัด สำรอง 4 นัด ซึ่งยิงไม่ได้เลยแม้แต่ประตูเดียว ก่อนจะโดนปล่อยไปอยู่กับ ฮองอันห์ยาลาย ในวีลีกหลังจบเลกแรกทันที


รณชัย รังสิโย

รณชัย รังสิโย ที่กำลังอยู่ในช่วงถูกจับตามองจากฝีเท้าที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นหัวหอกดาวรุ่งพุ่งแรงของวงการลูกหนังไทย เขาเพิ่งพาการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคคว้าแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกสมัยแรกในประวัติศาสตร์ของสโมสรในปี 2008 พร้อมกับคว้าตำแหน่งรองดาวซัลโวสูงสุดประจำฤดูกาลด้วย 16 ประตู จนถูก ปีเตอร์ รีด เรียกติดทีมชาติชุดใหญ่ชุดคว้ารองแชมป์ เอเอฟเอฟ ซูซุกิ คัพ 2008 จึงไม่แปลกที่แฟนๆต่างคาดหวังเห็นฟอร์มถล่มประตูเพื่อพาทีมประสบความสำเร็จจากเขา

ในเกมกระชับมิตรกับ ทีมชาติไทย ที่สนาม ธันเดอร์โดม สเตเดียม รณชัย รังสิโย เปิดตัวอย่างเป็นทางการ แต่กลับเกิดเหตุไม่คาดฝัน เมื่อเขาได้รับบาดเจ็บหนักจากการปะทะกับ ณัฐพร พันธุ์ฤทธิ์ จนหัวเข่าขวาบิดอย่างแรง ปีนั้น กิเลนผยอง จะจบฤดูกาล 2009 ด้วยการเป็นแชมป์ แต่เขาไม่ได้มีส่วนร่วมกับทีมเลยแม้แต่เกมเดียว

ขณะเดียวกันปีถัดมา รณชัย รังสิโย ยังคงประสบปัญหาอาการบาดเจ็บอีกครั้ง และถึงแม้ทีมจะคว้าแชมป์ไทยพรีเมียร์ลีกได้เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกัน แต่ รณชัย ได้ลงเล่นไปเพียง 7 นัดในลีกและยิงไปแค่ 1 ลูก ก่อนที่จะถูกปล่อยตัวให้กับ บีอีซี เทโรศาสน ในเดือนธันวาคมปี 2010


มิโรสลาฟ ทอธ

แนวรุกชาวสโลวาเกีย ทำผลงานได้อย่างโดดเด่นกับ ทีโอที เอสซี ก่อนถูก เมืองทอง ยูไนเต็ด คว้าตัวมาร่วมทัพในฤดูกาล 2011 พร้อมรับเสื้อหมายเลข 9 แต่ตลอดเวลาที่อยู่กับทีม เขาแทบไม่สามารถเรียกฟอร์มเก่งออกมาได้เลย โดยลงสนามในลีกไปทั้งสิ้น 15 นัด ยิงไปแค่ 4 ประตูเท่านั้น ก่อนจะถูกปล่อยตัวออกจากทีมในช่วงเลกสอง และต้องลดชั้นย้ายไปค้าแข้งในดิวิชั่น 1 กับ แบงค็อก ยูไนเต็ด ในเวลาต่อมา